ประกาศจากทาง ro-prt.in.th
กฎ กติกา มารยาทเว็บไซต์ ro-prt.in.th
สามารถล็อคอินด้วยFacebookได้แล้ว
ประกาศแจ้งสำหรับสมาชิกที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้
-
Similar Content
-
โดย "와이"ですよ
สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาพบกับผมอีกครั้ง ช่วงนี้เพื่อนๆ ที่เซิฟไทยก็คงจะปั้นตัวกันระห่ำ เนื่องในโอกาสที่กิจกรรม Booster เข้าเซิฟไทยไปตามที่เพื่อนๆ เรียกร้องกัน แต่ในขณะเดียวกัน เนื่องจากมีการบัคมากมายหลังจากที่อัพ Episode 18.1 เซิฟเกาหลีมีการปิดปรับปรุงฉุกเฉินไปถึง 4 รอบในเวลาเพียง 3 วัน ทำให้ทางทีมงานของเกาหลีตัดสินใจที่จะคูณ Exp ให้กับเซิฟ 70% และคูณดรอปให้ถึง 50% ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงไม่ได้มีโอกาสไปปั้นตัวทิ้งไว้ที่เซิฟไทย (จริงๆ ก็กลับไปแอบปั้นตัวทิ้งไว้จนเวลประมาณ 30 แล้วเห็นข่าวว่าเซิฟเกาหลีจะคูณก็เลยกลับลำกระทันหัน)
ในโอกาสนี้ ผมจึงถือโอกาสดันตัวละครที่เซิฟเกาหลีของผมให้กลายเป็นคลาส 4 และแล้ว ตัวละครที่ทำสำเร็จเป็นตัวที่สองหลังจาก Arch Mage ก็คือ Trouvere หรือคลาส 4 ที่พัฒนามาจาก Wanderer คลาสนักเต้นของเรานั่นเอง
จุดแข็งของคลาส
จุดอ่อนของคลาส และวิธีทางแก้ปัญหาของผม
Build
Gameplay และสกิลคลาส 4
เป็นยังไงบ้างครับเพื่อนๆ กับอาชีพ Trouvere อาชีพที่ทั้งชุดก็น่ารัก ซัพพอร์ตก็ดี ดาเมจก็ไม่แย่ Disable และดีบัพก็ดี ใครเล่าที่เล่นแล้วจะไม่รักบ้าง หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ หลงรักอาชีพนี้มากขึ้น และเข้าใจหลักการการเล่น การทำนายดาเมจ ไม่มากก็น้อย
สำหรับวันนี้ก็หมดแค่นี้ครับ เจอกันใหม่ กระทู้หน้านะครับเพื่อนๆ ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมที่เรารักครับผม
Reference
ปรับสกิลคลาส 2 และไฮคลาสครั้งใหญ่ https://www.divine-pride.net/forum/index.php?/topic/3453-kro-mass-skills-balance-1st-2nd-and-transcendent-classes-skills/
Job Improvement การปรับสมดุลสกิลคลาส 3 https://www.divine-pride.net/forum/index.php?/topic/3723-kro-jobs-improvement-project/
Job Improvement การปรับสมดุลสกิลคลาส 3 ในแพทซ์คลาส 4 https://www.divine-pride.net/forum/index.php?/topic/3723-kro-jobs-improvement-project/page/7/
คำอธิบายสกิลคลาส 4 ของ Trouvere และ Troubadour https://www.divine-pride.net/forum/index.php?/topic/4672-kro-fourth-class-jobs-skills-info-and-related-items-updated-16092020/&tab=comments#comment-8033
กิจกรรม Royal Hunting Event (มาจากเว็ปหลักของ KRO ดังนั้น ก็มุดด้วย VPN ก่อนที่จะเข้าชมลิงก์ด้วยนะครับ) https://ro.gnjoy.com/news/event/View.asp?Seq=998&kind=A&curpage=1
อาวุธซีรีย์ 18.1 https://ro.gnjoy.com/news/update/View.asp?seq=259&curpage=1
บทความ Atk ของ Assing https://www.pingbooster.com/blog/detail/ragnarok-attack?fbclid=IwAR2q8f_2kODBgNw1RTQFWzhHQF_5Ay08ZPr1lYYKiTGieHiSta2cA2QHJf0
-
โดย "와이"ですよ
เมื่อวาน หรือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2021 ทางเซิฟเกาหลีได้ทำการอัพเดทเนื้อเรื่องต่อของ Ragnarok Online เข้าสู่ Episode ที่ 18.1 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากเนื้อเรื่องภาคก่อนๆ ช่วง 17.1-17.2 เราได้ค้นพบวิทยาการล้ำยุคที่ปราชญ์ Varmundt (ปราชญ์ที่เป็นอาจารย์ของกษัตริย์ Glast Heim องค์สุดท้ายอย่าง Schmidt ซึ่งเราจะเจอนักปราชญ์ท่านนี้ตั้งแต่เนื้อเรื่อง Old Glast Heim) ได้ทำการสร้างไว้ หลังจากที่เราสามารถเข้าสู่วิทยาการทางวิทยาศาสตร์อันล้ำยุคเหล่านี้ได้ (Automatic Set) ก็ได้เกิดเรื่องบางอย่างกับโลกอีกฝากหนึ่ง (ศาสนา) ลัทธิคลั่งเทพ Freya ได้เริ่มมีการเคลื่อนไหว
ใน Episode นี้ เราจะได้เริ่มทำการสืบสวน การทดลองลับที่ทวีป Arunafeltz ได้ทำการซ่อนเอาไว้จากสายตาของประชาชนทั้งทวีปอื่น และทวีปตัวเอง
ในกระทู้นี้ ผมจะทำการบอกเล่าเรื่องและประสบการณ์การเดินทางทำเควสนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ
ปล. ในส่วนที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ โดยที่จะไม่มีการสปอยเนื้อหาใดๆ เพราะผมอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าเพื่อนๆ พร้อมกันแล้วไปติดตามกันเลย
เงื่อนไขของเควส
1. ตัวละครจะต้องมีเลเวล 170 ขึ้นไป
2. ต้องผ่านเนื้อเรื่องหลักของ 17.2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (การจับกุม Sweetie)
3. (Optional) ผ่านเควส Lost Child และ Rachel Sanctuary Quest ซึ่งทำให้เราสามารถเดินทางเข้าไปยังวิหาร Rachel Sanctuary ได้
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. Meat 1 ชิ้น สามารถหาซื้อได้จาก Prontera และ Izlude เป็นต้น
2. Steel 3 ชิ้น สามารถหาซื้อได้จาก Paramarket
3. Tough Vines 1 ชิ้น ของชิ้นนี้จะดรอปจาก Dryad ที่อาศัยอยู่ใน Umbala Field 1
4. บอสเนื้อเรื่องจะมีธาตุแสง และธาตุวิญญาณ (ซึ่งสามารถเปลี่ยนธาตุเป็นธาตุมืดได้) ดังนั้น หากเป็นสายนักธนู ก็ให้เตรียมลูกธนูศักดิ์สิทธิ์ มืด วิญญาณ และ น้ำ (มอนในแมพส่วนใหญ่เป็นธาตุไฟ) หรือ สายพ่อค้าอย่าง Genetic สาย Cart Cannon หรือ Mechanic สาย Arm Cannon ก็ให้เตรียมกระสุนทุกธาตุ สำหรับสายกายภาพระยะประชิด ก็อย่าลืมใบธาตุน้ำ และยามืด กับใบชนแก้ว
Walkthrough
เนื้อเรื่องจะเริ่มขึ้นที่คฤหาสน์วามุนด์ ณ สถานที่กักขังอาชญากรอย่าง Sweetie ให้เราเริ่มคุยเปิดเนื้อเรื่องที่หุ่นยนต์ Beta
ทางหุ่นยนต์ Beta จะกล่าวถึงเรื่องราวบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในทวีป Arunafeltz นางก็จะเสนอให้เราเดินทางไปที่ Rachel (อ่านว่า ราเฮลตามสำเนียงเกาหลี 라헬)
โดยที่นางจะเดินทางไปพร้อมกับเรา (เข้าใจว่าจะช่วยแปลภาษาของทวีปนั้นๆ เพราะว่า เราจะสื่อสารกับ NPC ได้ก็ต่อเมื่อ เราสวมใส่หมวก AI) ในลักษณะของหมวกของสวมใส่
จากนั้น เราก็เริ่มต้นเดินทางไปยัง Rachel กันเลย เมื่อไปถึง Rachel แล้ว ให้เราเดินไปยังฉาก ตามที่ปรากฎในมินิแมพ เพื่อที่จะเริ่มต้น Cut Scene
ในระหว่างที่พูดคุยกับคนในเควส ก็อย่าลืมที่จะใส่หมวกที่ได้รับจากหุ่นยนต์ AI เพื่อแปลภาษา
หลังจากการคุยเสร็จสิ้น ก็จะมีนักบวชปรากฎตัวขึ้น เขาจะนำทางเราไปยังวิหาร Rachel Sanctuary ต่อไป
จนถึงตอนนี้ เราจะได้รับคริสตัลสีม่วงๆ เรียกว่า Amethyst Fragment (ขอบคุณคำแปลจากคุณซิกม่า) สำหรับที่จะนำไปแลกของรางวัลประจำ Episode อีกที
จากนั้น ให้เราเดินทางไปยังทางเข้าวิหารเพื่อต่อบทสนทนา เมื่อคุยไปเรื่อยๆ เขาจะให้เราเข้าไปยังวิหาร
แต่ เอ้ะ! ผมเข้าไม่ได้แหะ ตรงจุดนี้ ผมและหลายๆ คนเองก็พึ่งรู้ว่า แม้จะเป็นแพทซ์ปัจจุบันวิหาร Rachel Sanctuary ก็ต้องทำเควสเพื่อเข้าไปอยู่
แต่ไม่เป็นไร หากเราไม่สามารถเข้าประตูหน้าได้ ก็แค่อ้อมเข้าด้านข้างวิหารก็พอแล้ว
ผ่านทางเข้าลับเข้าไปยังดันเจี้ยน Rachel Sanctuary ชั้น 1 แล้วเดินกลับไปยังชั้นปกติ
ตรงจุดเคาเตอร์บริเวณทางเข้าของวิหาร ก็จะมีทหารยามของ Rachel อยู่ ทำการพูดคุย
จากนั้น เควสก็จะให้เราไปพูดคุยกับ NPC ที่หลายๆ คนที่เคยทำเควสเข้าดันเจี้ยน Rachel มาก่อน ก็อาจจะรู้จักอย่าง อาเจ้ Niren (ถ้าอ่านผิดขออภัย)
หลังจากนั้น Niren ก็จะนำเรามาพูดคุยกับทหารยาม และเควสก็จะนำทางเราไปอีกที่หนึ่ง
เราก็เริ่มสอบถามชาวเมืองเกี่ยวกับเบาะแสต่างๆ ของวิหารอันลึกลับนี่
ทางชาวเมืองก็บอกให้เราไปถาม บุคคลลึกลับ (NPC ตัวใหม่) อย่าง Malam
และ Miliam
เรา Malam รวมไปถึง Miliam ก็รวมตัวกันไปพบปะชาวเมือง เพื่อพูดคุยหาเบาะแสต่อไป
ระหว่างที่หาเบาะแสที่ร้านอาหารร้านหนึ่งในเมือง
เราก็ดันบังเอิญไปเจอกับ Tamarin เรนเจอร์หนุ่ม เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่นำทางเราเข้าไปยังดินแดน Fire Basin ตั้งแต่ Episode 14.3
นอกไปจาก Tamarin แล้วก็ยังมีพวกแก็งนักผจญภัยคนอื่นๆ ที่เราจะได้พบพวกเข้าในช่วง Episode 16.1 อีกด้วย
กลับเข้าสู่แผนกันต่อ
หลังจากเราสืบเสาะเรื่องราวต่างๆ จากชาวเมือง Rachel เขาก็นำทางให้เราไปเจอกับคนๆ หนึ่ง
ชายคนนี้อยู่ทางนอกเมือง Rachel ฝั่งซ้ายมือ (ซึ่งในเซิฟไทย ยังเป็นแมพปริศนาที่เราจะยังไปไม่ได้)
ชายคนนี้ก็จะนำทางเราไปซ้ายสุดของดินแดน Arunafeltz ซึ่งเป็นหุบเหวลึกอย่างมาก
มาถึงจุดนี้ก็จองดันเจี้ยนกันเลย ต่อไปนี้ เราจะหย่อนตัวลงไปในเหวนี้ เพื่อสำรวจอะไรบางอย่าง โดยที่เราไม่แน่ใจเลยว่า เราจะเจอกับอะไร (ไม่แน่ใจว่า จริงๆ แล้ว เขาบอกเราหรือเปล่าว่า เราจะเจอกับอะไร)
เมื่อพร้อมแล้ว ก็โรยตัว ลงไปสำรวจใต้หุบเหวกันเลย
หุบเหวลึกนี้ แม้จะมีแสงลอดส่องลงมาเพียงเล็กน้อย ก็ยังมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ปัญหาก็คือ มันดุร้ายต่อผู้บุกรุกภายนอก
และนี่คือ Status ของมอนสเตอร์พวกนี้ที่ได้จากการใช้สกิล Sense level 1 ส่องดู (ปล. ก้อนหินนี้ ดูจะเป็นก้อนหินธรรมดา แต่จริงๆ แล้วมีพืชกินสัตว์ที่จะคอยกินเหยื่อที่เดินเข้ามาใกล้ ซ่อนตัวอยู่)
ในระหว่างที่เราเดินสำรวจหุบเหวนี้ ก็จะมีมอนสเตอร์ค่อย Jump Scare มาสู้กับเราตลอดเส้นทาง
ในระหว่างที่เดินลึกเข้าไปในหุบเหว ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากใครบางคน (ในที่แบบนี้เนี่ยนะ)
หลังจากที่เราพุ่งเข้าไปช่วยเหลือคนแปลกหน้าจากสัตว์ร้าย เขาก็นำทางเราไปยังที่ที่เขาอยู่
พบว่า จริงๆ แล้วอีกฝากหนึ่งของหุบเหวลึกทางทิศตะวันตกของเมือง Rachel มีสถานที่อีกสถานที่หนึ่งอยู่
คุยกับเชือกเพื่อปีนขึ้นไปด้านบน เป็นอันจบดันเจี้ยนส่วนตัวอันแรก
อีกฝากหนึ่งของหุบเหว เป็นภูมิประเทศอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างไปจาก Rachel โดนสิ้นเชิง (ตรงแมพนี้ ทำผมขนลุกเลย มันให้กลิ่นอายของเกม Tree of Savior สุดๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศ และเสียงประกอบฉาก)
และแน่นอน ณ อีกฝากหนึ่งของดินแดน Arunafeltz ก็มีชนพื้นเมืองอาศัยอยู่ พวกเราเรียก เมืองนี้ว่า Wolf Village หรือ หมู่บ้านหมาป่า (ไม่แน่ใจว่าทำไม)
หลังจากเข้าไปในหมู่บ้าน ก็จะมีเควสต่างๆ ให้เราได้ทำเต็มไปหมด (สังเกต ที่ Mini map ทางขวาบนของผมก็ได้ ว่ามีจุดเควสสีเหลืองขึ้นเต็มไปหมด)
หลังจากที่เราบุกน้ำ ลุยไฟ ช่วยเหลือ ช่วยงานชาวบ้านจนชาวบ้านให้ความไว้วางใจกับเรา เราก็เริ่มแผนการ
ทางหมู่บ้านได้ทำการจัดประชุม ปรึกษาหารือกันถึงความลับของเมือง Rachel (ไม่แน่ใจว่า เรารู้เรื่องจากที่นี่หรือเปล่า)
จากนั้น เราก็จะต้องเดินทางกลับมายังเมือง Rachel
ตามไปด้วยเมือง Vein มาถึงตรงนี้ เราก็พบว่า ความลับของ Arunafeltz ถูกซ่อนเอาไว้ภายในดันเจี้ยนสุดโหดอย่าง Thor Volcano
ลึกเข้าไปในใจกลางของแมพ Thor Volcano ชั้น 1 เราก็พบกับทางเข้าลับไปยังสถานที่ที่นึง
ภายในที่นี่ มีสิ่งปลูกสร้างอยู่ที่เป็นฝีมือของมนุษย์อยู่
และแน่นอน สถานที่แห่งนี้หาได้ถูกทิ้งร้างไม่ ที่นี่มีระบบรักษาความปลอดภัยสุดแน่นหนา ราวกับว่า เป็นที่สำหรับจะซ่อนความจริงบางอย่างเอาไว้
สิ่งที่ต้องระวังสำหรับที่นี่คือ เสาระบบรักษาความปลอดภัย ที่จะปล่อยสัญญาณเตือนภัย หากเราเข้าใกล้รัศมีของเสา จะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยออกมาฆ่าเรา
ระหว่างทางเองก็มียามคอยเฝ้าอย่างแน่นหนา
หลังจากที่เราเข้าไปยังจุดที่ลึกที่สุดของตัวอาคาร เราก็พบว่า มันเป็นสถานที่เก็บเอกสารสำคัญที่กุมความลับของดินแดน Arunafeltz เอาไว้
หลังจากที่เราเก็บหลักฐานต่างๆ ออกมา
เราก็จะถูกวาร์ป (Fast Travel) ไปยังหมู่บ้านหมาป่าโดยอัตโนมัติ
แผนต่อไปก็คือ เราจะทำการบุกเข้าไปยังวิหาร Rachel Sanctuary ด้วยความช่วยเหลือจากทหารจากในหมู่บ้าน (ยุคนี้ใครเขาใช้ดาบ เขาต้องปืน AK47 กันแล้ว)
แต่แน่นอนว่า เราจะบุกเข้าไปดุ่มๆ กลางวันแสกๆ ก็ไม่ได้
เราจึงต้องบุกเข้าในเวลากลางคืน
เข้าไปยังวิหาร Rachel ผ่านเส้นทางลับที่เราเองก็เคยเข้าก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ระหว่างทางก็จะมีทหารยามออกมาคอยขัดขวางเรา สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ต่อสู้
ภายในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์กลับมีประตูที่ไม่เข้าพวกอยู่
เมื่อเราเข้าไปเราก็จะพบกับศัตรูตัวใหม่ที่เป็นหุ่นยนต์สังหารที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยนักวิจัยของวิหาร
และนี่ก็คือ โฉมหน้าของนักวิจัยผู้นั้น
หลังจากไล่ต้อนมาจนถึงจุดหนึ่ง พวกมันก็หนีไปจนได้
กลับออกมาภายนอกของวิหาร
เราก็จะพบกับกลุ่มทหารรับจ้าง Heart Hunter (ที่เราไปบุกทำลายรังของพวกมันใน Episode 16.2) ซึ่งแน่นอน หน้าที่ของเราก็คือ สู้ นั่นเอง
ก็เป็นอันจบดันเจี้ยนส่วนตัว
มาถึง จุด Climax ของเรื่องแล้ว คราวนี้เราจะบุกเข้าไปถึงที่มั่นสุดท้ายที่นักวิจัยหนีไป
ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่เป็นใต้หุบเขาทางตะวันตกของเมือง Rachel นั่นเอง
ภายในเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่
ซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนาจากกลุ่มทหารรับจ้าง Heart Hunter เจ้าเก่าเจ้าเดิม
หลังจากที่เราจัดการกับกลุ่มทหารรับจ้างเสร็จเรียบร้อย
เรากับ Miliam ก็ตัดสินใจแยกย้ายกันไปสำรวจคฤหาสน์ลึกลับอันนี้ โดยเราจะแยกไปทางซ้าย ส่วน Miliam เธอจะแยกไปทางขวา (ถึงตรงนี้ ผมก็พึ่งรู้ว่า เธอเป็น Assassin หลังจากที่แยกกับเราไปทางขวา เธอก็ใช้สกิล Cloaking มุดเดินไปทางขวา)
ทางซ้ายเองก็มีการรักษาความปลอดภัยจาก Heart Hunter และหน้าที่ของเราก็คือ จัดการต่อสู้ และค้นหาวิธีเข้าไปยังห้องตรงกลาง
หลังจากค้นหาไปสักพัก เรากลับไปพบกับ Miliam ที่แยกไปทางขวามือ ซึ่งทางนี้เธอก็จัดการไปเรียบร้อยแล้ว
ดูเหมือนว่า เราจะพลาดบางที่ของฝากซ้ายของคฤหาสน์ไป
จากนั้น กลับมาหา Miliam เราก็สามารถปลดล็อคประตูเพื่อเข้าไปยังโถงกลางของคฤหาสน์ได้
ภายในโถงมีประตูบานใหญ่อยู่บานหนึ่ง ซึ่งมันถูกล็อคไว้ด้วยกลไกทางเวทมนตร์บางอย่าง
Puzzle ก็ไม่ยาก เพียงเรา Interact กับรูปปั้นทางซ้ายมือ และขวามือของเรา เราก็จะสามารถเข้าไปยังห้องถัดไปได้
แน่นอนว่า ในห้องถัดไปก็มีประตูถูกล็อคไว้เช่นกัน
เผื่อที่จะเข้าผ่านประตูถัดไปได้ เราจะต้องทำการ Interact ก็สิ่งที่ซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ต่างๆ ในห้อง จนกว่าเราจะเจอพุ่มที่ถูกต้อง (ถ้าถูก จะมีแสงสีม่วงพุ่งขึ้นมาจากพุ่มไม้ เหมือนแสงที่พุ่งมาจากรูปปั้นในห้องก่อน)
หลังจากที่เราเข้ามายังห้องถัดไปได้
เราก็จะพบกับหุ่นสังหารที่ถูกสั่งมาให้จัดการเรา ตรงนี้จะเป็น Boss Fight
บอสตัวนี้เป็นบอส MVP เลือดราวๆ 23 ล้าน เป็นเผ่าปีศาจ ขนาดกลาง ธาตุวิญญาณ Skill หลักๆ ของมันก็จะมี Thunder Storm, Lord of Vermillion (น่าจะมี Wide Frozen แต่ผมไม่โดนเพราะกดใบ Def +500/ Mdef+200 ซึ่ง Hard Mdef รวมมากกว่า 100 จะทำให้ไม่ติด Frozen และ Stone Curse เว้นแต่ว่า มอนจะมี Status หรือเลเวลสูงกว่าเรามากๆ) อีก Gimmick หนึ่งที่ผมเจอก็คือ มันสามารถเปลี่ยนธาตุตัวเองได้ (หลังจากที่ผมโจมตีด้วยเวทย์วิญญาณไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ มันก็เปลี่ยนธาตุเป็นธาตุมืด ไม่แน่ใจว่า มันเปลี่ยนเป็นธาตุมืดอย่างเดียว หรือแค่เปลี่ยนหนีธาตุที่เราโจมตีมันบ่อยๆ)
หลังจากจัดการบอสตัวนี้ไปได้ เราก็จะได้เข้าไปยังห้องถัดไป
แต่มันสายไปซะแล้ว ที่ผ่านมา เป็นเพียงการถ่วงเวลาเพื่อที่จะทำให้ การอัญเชิญเทพเฟรย่า (Freya) ที่ถูกผนึกไว้กลับมาบนดินแดน Midgard
สังเกตว่า Freya มีรูปร่างหน้าตา ไม่ว่าจะเป็นทรงผม และสีตา คล้ายกับ Pope เด็ก ของ Rachel Sanctuary มาก (น่าจะโดนฆ่าแล้วทำให้กลายเป็นร่างสถิตของเทพ Freya)
ไม่พอ หลังการจุติของ Freya หุ่นสังหารที่เราพึ่งจะฆ่าทิ้งไปก่อนหน้านี้ก็ถูกคืนชีพกลับมาด้วย (ไม่แน่ใจว่า Freya ชุบให้ หรือนักวิจัยชุบ)
ตรงจุดนี้เป็น Boss Fight ที่อันตรายมาก เพราะว่า มัน Spawn บอส MVP มาให้เราสู้ถึง 2 ตัวพร้อมกัน ทั้งหุ่นสังหารตัวเดิม Status เดิม Skill แบบเดิม เลือดเต็ม และตัวบอสใหญ่อย่าง Freya เอง แน่นอนว่า ใครจะไปสู้พร้อมกัน 2 ตัวล่ะ ก็ลากออกมาสู้แค่ตัวเดียวก่อนซิ
ตัวบอส Freya (ร่างโหมดเนื้อเรื่อง) มีเลือดอยู่ที่ 23 ล้านเช่นกัน เป็นเผ่าเทพ ธาตุศักดิ์สิทธิ์ (นานๆ ที จะมีธาตุศักดิ์สิทธิ์มาให้ Archmage ที่ชำนาญเวทย์แห่งความมืด เวทย์ผีดิบ และเวทย์วิญญาณฆ่าบ้างเสียที ผมเดาได้แต่แรกแล้วว่า เราจะได้สู้กับ Freya เพราะว่า สกิล Draconic Aura ของพระเอกอย่าง Dragon Knight จะแสดงพลังสูงสุดเมื่อโจมตีเผ่าเทพ) สกิลหลักๆ ของ Freya ได้แก่ สกิลใหม่ ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ลักษณะจะเป็นการตั้งกรง ถ้าเราเข้าไปในกรง เราจะทำให้เดินไม่ได้ แล้วโดนดาเมจมหาศาล (แรงมาก เกือบๆ 5 หมื่นได้ โดนก็เกือบวูบ) ที่แสบและน่ากลัวที่สุดเลยก็คือ Earthquake ที่ค่อนข้างกว้างและรุนแรงมาก (ผมโดนทีเดียวตายไปเลย ไม่ต้องถึง 3 Hit) แต่ไม่รู้เพราะอะไร ในโหมดเนื้อเรื่อง เหมือน Freya จะโดนขัดร่ายได้ ดังนั้น ถ้าเป็นสายโจมตีกายภาพก็ใส่ไปอย่าหยุด บอสยังคงมี Gimmick ในการเปลี่ยนธาตุตัวเองจากธาตุแสงเป็นธาตุมืดอีกด้วย ตรงจุดนี้ต้องระวังอย่างมาก
หลังจากจัดการกับ Freya เสร็จ เธอก็กลับกลายเป็นไข่โฮมุนไปซะอย่างงั้น เป็นการตั้งคำถามว่า ร่างสถิตของ Freya คืออะไรกันแน่ หรือว่า แท้จริงแล้ว โปปเด็กที่เราเจอ จะเป็นโฮมุนคูสกันแน่
ในที่สุด เราก็จับกุมนักวิจัยของ Arunafeltz ได้ (ไม่แน่ใจว่า อีกคนหนีรอดไปได้หรือเปล่า เพราะเห็นว่าหายไปแล้ว)
หลังจากจบ เราก็จะถูกส่งมายังวิหาร Rachel
เป็นอันจบเควสเนื้อเรื่อง 18.1 Direction of the Prayer
เป็นยังไงกันบ้างครับเพื่อนๆ เนื้อเรื่องดุเดือดเลือดพล่านสุดๆ ไปเลยใช่ไหมครับ (ผมไม่เก่งภาษาเกาหลี ผมเลยไม่รู้ว่า จริงๆ เนื้อเรื่องเป็นไง ที่ผมเขียนมาคือ มโนตามฉากมาเรื่อยๆ เฉยๆ
ท้ายที่สุด ผมจะให้เหตุผลว่า ทำไมเนื้อเรื่องนี้ถึงสอดคล้องกับชื่อ Episode ก่อนอื่นเลย เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ คือ Direction of the Prayer เป็นทิศทางที่คำภาวนาหรือ คำอธิยฐานมุ่งไปตามที่ผมแปลนั่นแหละ ซึ่งสิ่งนี้เป็นหนึ่งในคุณลักษณะของศาสนาต่างๆ ตัวอย่างที่ทำให้เพื่อนๆ อาจจะเห็นภาพก็คือ เช่น ศาสนาอิสลาม ตัวมัสยิต หรือ สถานที่ทำพิธีกรรม จะถูกออกแบบมาให้หันหน้าไปทางกรุงเมกกะ ที่ประเทศซาอุดิอาราเบียเสมอ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า คำภาวนาต่อพระเจ้าจะไปรวมกันที่ทิศทางใด ทิศทางหนึ่ง (เข้าใจว่า เวลาทำละหมาด ก็จะต้องหันไปยังกรุงเมกกะเสมอเช่นกัน) และนี่แหละ คือ ความหมายของ Direction of the Prayer ในโลกแห่งความเป็นจริง
แล้วมันบอกอะไรเรา? ในเนื้อเรื่องบทนี้ เราจะพบว่า จริงๆ แล้ว คำภาวนาของศาสนาใน Arunafeltz (ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นลัทธิคลั่งเทพ Freya) มุ่งไปยังที่ไหน ต้นตอของลัทธิอยู่ที่ตรงไหน ก็เหมือนกับที่เราตามหาสถานที่ลับเจอนั่นเอง เนื้อเรื่องของ Ragnarok จะเป็นยังไงต่อจากนี้ ผมจะรอติดตามอย่างใจจดใจจ่อแล้วมาเล่าให้เพื่อนฟังแน่นอนครับ ถ้า Episode 18.2 มาถึง
หากมีเพื่อนๆ อยากเห็นเนื้อเรื่อง Walkthrough ของ Episode ก่อนหน้าตั้งแต่ 16.1 ไปจนถึง 17.2 ถ้าว่างผมอาจจะมาทำให้ครับ ในส่วนของ Episode นี้ ผมอาจจะมาต่อเติมด้านเควสช่วยเหลือชาวบ้านทุกเควสว่าต้องทำอะไรบ้างที่หลัง และชิ้นส่วน Amethyst Fragments เอาไปแลกอะไรได้บ้าง ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ครับ แล้วเจอกันใหม่ กระทู้หน้านะครับผม
-
-
Recently Browsing 0 members
No registered users viewing this page.
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.